ครั้งแรกใน 2 ทศวรรษ! ยอดขายแผ่นเสียงแซงหน้าแผ่นซีดีในสหรัฐฯ เหตุกระแสหวนอดีตแรงเกินคาด
Quote from Webmaster Thaigramophone on March 20, 2021, 8:21 pmตอนนี้กระแสโหยหาอดีตมาแรงอย่างคาดไม่ถึง ทำให้อุตสาหกรรมเพลงในสหรัฐอเมริกาเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง นั่นคือยอดขายแผ่นเสียง (Vinyl) ในปี 2563 มีมากกว่าแผ่นซีดี (CD) แล้ว ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ
เรื่องในอดีตกลายเป็นที่สนใจ
Recording Industry Association of America เปิดเผยผลสำรวจอุตสาหกรรมเพลงในสหรัฐอเมริกาช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ว่า ยอดขายแผ่นเสียงคิดเป็นมูลค่า 232.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนแผ่นซีดีคิดเป็นมูลค่า 129.9 ล้านดอลลาร์ ลดลง 48%
ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี เพราะช่วงเวลานั้นเทปคาสเซ็ท และแผ่นซีดี เข้ามามีบทบาทกับอุตสาหกรรมเพลงมากขึ้น และทำให้แผ่นเสียงแทบไม่มีที่ยืนในตลาดนี้ จนกระทั่งปี 2543 แผ่นเสียงเริ่มกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะกระแสหวนหาอดีต จนกระทั่งครึ่งแรกของปี 2563 แซงหน้ายอดขายแผ่นซีดีได้
อย่างไรก็ตามสิ่งที่จับต้องได้ในอุตสาหกรรมเพลง เช่นแผ่นเสียง, แผ่นซีดี หรือเทปคาสเซ็ท ยังหดตัว 23% ในครึ่งแรกของปี 2563 คิดเป็นมูลค่า 376 ล้านดอลลาร์ ที่สำคัญอุตสาหกรรมเพลงยังถูกครอบครองตลาดโดยบริการฟังเพลงออนไลน์ หรือ Streaming เช่นเดิม ผ่านการกินส่วนแบ่งกว่า 85% หรือ 4,800 ล้านดอลลาร์
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมดนตรีในสหรัฐอเมริกาเติบโตขึ้น 5.6% คิดเป็นมูลค่า 5,700 ล้านดอลลาร์ในครึ่งแรกของปี 2563 ส่วนในตลาดโลก บริการฟังเพลงออนไลน์ยังกินส่วนแบ่งของตลาดนี้จำนวนมากเช่นกัน เนื่องจากความสะดวกในการรับฟัง และผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเงินค่าสมัครสมาชิกมากขึ้น
สรุป
การฟังเพลงยังเป็นความบันเทิงที่ผู้บริโภคชื่นชอบ และยินดีจ่ายหากแพลตฟอร์มการฟังเพลงเหล่านั้นให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ที่น่าสนใจคือตลาดหวนคืนอดีต เพราะแผ่นเสียง รวมถึงเทปคาสเซ็ทมีการเติบโตขึ้นจริงๆ และยังไม่มีใครรู้ว่ากระแสนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อไร
อ้างอิง // CNN
ที่มา BrandInside.asia
ตอนนี้กระแสโหยหาอดีตมาแรงอย่างคาดไม่ถึง ทำให้อุตสาหกรรมเพลงในสหรัฐอเมริกาเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง นั่นคือยอดขายแผ่นเสียง (Vinyl) ในปี 2563 มีมากกว่าแผ่นซีดี (CD) แล้ว ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ
เรื่องในอดีตกลายเป็นที่สนใจ
Recording Industry Association of America เปิดเผยผลสำรวจอุตสาหกรรมเพลงในสหรัฐอเมริกาช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ว่า ยอดขายแผ่นเสียงคิดเป็นมูลค่า 232.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนแผ่นซีดีคิดเป็นมูลค่า 129.9 ล้านดอลลาร์ ลดลง 48%
ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี เพราะช่วงเวลานั้นเทปคาสเซ็ท และแผ่นซีดี เข้ามามีบทบาทกับอุตสาหกรรมเพลงมากขึ้น และทำให้แผ่นเสียงแทบไม่มีที่ยืนในตลาดนี้ จนกระทั่งปี 2543 แผ่นเสียงเริ่มกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะกระแสหวนหาอดีต จนกระทั่งครึ่งแรกของปี 2563 แซงหน้ายอดขายแผ่นซีดีได้
อย่างไรก็ตามสิ่งที่จับต้องได้ในอุตสาหกรรมเพลง เช่นแผ่นเสียง, แผ่นซีดี หรือเทปคาสเซ็ท ยังหดตัว 23% ในครึ่งแรกของปี 2563 คิดเป็นมูลค่า 376 ล้านดอลลาร์ ที่สำคัญอุตสาหกรรมเพลงยังถูกครอบครองตลาดโดยบริการฟังเพลงออนไลน์ หรือ Streaming เช่นเดิม ผ่านการกินส่วนแบ่งกว่า 85% หรือ 4,800 ล้านดอลลาร์
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมดนตรีในสหรัฐอเมริกาเติบโตขึ้น 5.6% คิดเป็นมูลค่า 5,700 ล้านดอลลาร์ในครึ่งแรกของปี 2563 ส่วนในตลาดโลก บริการฟังเพลงออนไลน์ยังกินส่วนแบ่งของตลาดนี้จำนวนมากเช่นกัน เนื่องจากความสะดวกในการรับฟัง และผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเงินค่าสมัครสมาชิกมากขึ้น
สรุป
การฟังเพลงยังเป็นความบันเทิงที่ผู้บริโภคชื่นชอบ และยินดีจ่ายหากแพลตฟอร์มการฟังเพลงเหล่านั้นให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ที่น่าสนใจคือตลาดหวนคืนอดีต เพราะแผ่นเสียง รวมถึงเทปคาสเซ็ทมีการเติบโตขึ้นจริงๆ และยังไม่มีใครรู้ว่ากระแสนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อไร
อ้างอิง // CNN
ที่มา BrandInside.asia